ขับรถท่องเที่ยวที่ เมืองน่านและหมู่บ้านสะปัน

รุ่งเช้าของวันที่เรานั้นได้ออกเดินทางเราได้นอนตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่ไหลนองตลอดทั้งคืนนี่มันคงจะเป็นการหลับที่ทรมานมากที่สุดตั้งแต่เคยได้นอนมาเลยโดยจะมีเหงื่อที่เปียกชุ่มที่จะคอยปลุกให้เรานั้นรีบเผ่นออกจากริมแม่น้ำน่านเราและเพื่อก็ได้เข้าสู่การเดินทางในช่วงเวลาหกโมงเช้า

ซึ่งเป็นการทำเวลาที่ดีที่สุดตั้งแต่เริ่มออกเดินทางทริปนี้มาซึ่งมันก็ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่พบความสะดวกสบายในค่ำคืนที่ผ่านมาและมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกสำหรับการเดินทางแบบ no plan ของเราสองคน

สำหรับสองนักเดินทางที่ไม่สามารถข้ามน้ำน่าไปยังจังหวัดน่านได้มันก็คงจะมีแต่หนทางได้วนรถกลับทางเดิมแต่เมื่อเราได้ยืนอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยแล้วคำว่ากรุงเทพแม่สายก็จะดูใกล้เข้ามาทุกที

สำหรับการเดินทางที่มีปลายทางเป็นเหนือสุดของประเทศไทยถ้าออกเดินทางด้วยสองล้ออย่างไม่แวะที่ไหนแล้วมันก็คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเก้าร้อยกิโลเมตรแต่จากการนับกิโลเมตรในการเดินทางของเรานั้นและเพื่อนั้นมันก็คงจะมีระยะทางที่มากขึ้นไปกว่าเก้าร้อยกิโลเมตรอีกหนึ่งเท่า

ซึ่งระยะทางที่เกินมาตามจริงนั้นก็คงจะเป็นสิ่งที่เราเรียกมันว่าการท่องเที่ยวหรือการเดินทางที่เราได้แวะเรียนรู้สิ่งต่างในระหว่างทางและยังได้พบเจอกับผู้คนที่อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวที่เราจะได้พบเจอกันในชีวิตนี้นั่นมันคงเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ใช่นักล่าปลายทางที่ได้มีความหลงไหลในการทดสอบขีดจำกัดของตัวเองบนท้องถนนเราและเพื่อนก็ได้เดินทางเข้าสู่จังหวัดน่านในช่วงเวลาที่เกือบจะเย็นวันและท้ายที่สุดนั้นเราก็ได้พัดหลงกันภายในเมืองน่านด้วยความเคยชินในเส้นทางที่แตกต่างกัน

ดูเหมือนกับว่าวันนี้เราจะทำเวลาได้ดีกว่าที่คิดกันเอาไว้จากเป้าหมายที่พวกเราได้ตั้งเอาไว้เพียงแค่เมืองน่านและเริ่มแถมมาที่ปัวจนท้ายที่สุดแล้วก็คือหมู่บ้านสะปันในบ่อเกลือที่จะต้องผ่านเส้นทางของถนนลอยฟ้าที่โด่งดังเป็นสถานที่ที่ได้ทำให้เมืองน่านเหมาะแก่การโร้ดทริปของนักเดินทางและนี่มันก็คงจะเป็นครั้งที่สองแล้วที่เราได้ผ่านถนนเส้นนี้เพื่อที่จะได้วิ่งตรงเข้าสู่หมู่บ้านสะปันหมู่บ้านที่จะเป็นปลายทางของพวกเราในค่ำคืนนี้ทิวทัศน์ที่ได้อยู่ในระหว่างทางดูเหมือนว่ามันจะเป็นตัวดึงเวลาของเราได้เป็นอย่างดีกับนักเดินทางเร่ร่อนของพวกเราทั้งสองคนที่ยังไม่มีที่พักหลังพระอาทิตย์ที่ได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว

 

 

สนับสนุนโดย  next88 pantip