ท่องเที่ยวถ้ำกระแซจังหวัดกาญจนบุรี

สำหรับเราที่กำลังเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ที่มันเงียบสงบที่จะสามารถหลบหนีความวุ่นวายจากในกรุงมาอยู่ในแหล่งที่เงียบสงบที่เป็นธรรมชาติได้อย่างจังหวัดกาญจนบุรีอีกแล้ว

ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ของเราถือว่ามันคือธรรมชาติใหม่ในชีวิตมันเหมือนกับตัวเราที่ได้ลองกินแหนมหมูสดเป็นครั้งแรกมันเป็นอะไรที่แปลกมากในตอนกินแต่ในตอนเช้าจากวันนั้นที่เราก็ได้กินข้าวผัดแหนมหมูทั้งเดือนคนเรามันจะต้องมีการเปิดมิติใหม่ของตัวกันบ้างถ้าไม่มีใครพาไปเปิดเราก็พาตัวเองไปเปิดนี่แหละ

 

 

นอกจากนี้ก่อนที่เราจะออกมาเที่ยวคนเดียวเป็นครั้งแรกเราคิดถ้าดึกๆนี่มันต้องเหงาแน่ๆเลยแต่ก็ลืมไปว่าในยุคนี้มันมีโซเชียลไงเราจะเอาเวลาไหนไปเหงาดีและมื้อเช้าของhostelนี้คือในตู้เย็นของโรงแรมมีอะไรคุณก็เปิดเอาออกมาทำกินเองถือว่ามันโครตอินดี้ใช้ได้เลยหลังจากท้องอิ่มก็ได้เวลาออกเดินทาง

เนื่องจากนี้เรากำลังเดินทางไปสู่สถานี ถ้ำกระแซ โดยเป็นบริเวณที่ตั้งของทางรถไฟสายมรณะได้เป็นไฮไลท์ในจุดที่สองที่เราแพลนไว้เลยระหว่างนี้รถไฟก็เดินทางผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแควไปช่วงนั้นบรรยากาศมันออกจะครึ้มๆนักท่องเที่ยวก็จะค่อนข้างที่จะตื่นตามากนั่งก้นไม่ติดเลย

ดังนั้นในระหว่างทางที่เราได้เดินทางไปที่ถ้ำกระแซเราได้พบเจอหินผาที่มันได้อยู่ด้านข้างของหน้าต่างชาวบ้านได้บอกว่าหากใครได้จับแล้วจะโชคดีแต่เราก็ไม่เห็นมีใครจับสักคนเราก็เลยไม่กล้ายื่นมืออกไปจับพอบรรยากาศครึ้มๆมานานฝนก็เริ่มปรอยลงมาบรรยากาศบนรถไฟตอนนี้ก็บางคนเขาก้มาเที่ยวคนเดียวแต่หลายคนก็มาเป็นครอบครัวเหมือนกันส่วนเราก็ได้เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวคนเดียว

ซึ่งเราก็ไม่ใช่นักเที่ยวมือโปรอะไรและสิ่งที่เราไม่อยากเห็นมันมากที่สุดะไรก็คือนักท่องเที่ยวมือโปรนี่แหละเพราะเรามีนิสัยที่เริ่มจะเบื่อกับอะไรที่เราถนัดแล้ว

เพราะฉะนั้นแล้วเวลานี้ต้องเก็บเกี่ยวกับการเป็นมือใหม่ให้มากที่สุดนั่งรถมาแปปเดียวเราก็ได้มาถึงที่สถานีที่ถ้ำกระแซแล้วเส้นทางนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในยุคสงครามโลกครั้งที่2จากประวัติแล้วเส้นทางนี้เป็นจุดที่อันตรายที่สุดของเส้นทางรถไปในอดีตได้เป็นที่พักของเฉลยศึกเพื่อสร้างทางรถไปจากไทยไปพม่า

โดยภายในถ้ำนั้นได้เป้นถ้ำที่มีขนาดเล็กบรรดานักท่องเที่ยวก็ได้ทยอยกันมา กราบไหว้หลวงพ่อถ้ำกระแซ จริงๆแล้วในอดีตเขาเชื่อกันว่าในถ้ำกระแซเป็นที่พักของเฉลยศึกในสงครามโลกครั้งที่2อีกด้วย

 

ขอบคุณ  letou   ที่ให้การสนับสนุน

เที่ยวหาดเจ้าสำราญจังหวัดเพชรบุรี

        ช่วงนี้หลายๆคนมักจะพาลูกหลานไปเที่ยวทะเลเนื่องจากว่าใกล้จะเปิดเทอมแล้วดังนั้นนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทะเลที่เป็นแถบพัทยาอยากจะแนะนำให้ลองมาเที่ยวหาดเจ้าสำราญที่จังหวัดเพชรบุรีซึ่งที่นี่ก็ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยนั้นรู้จักกันมาช้านานและแน่นอนว่ามีความสวยงามและมีความเป็นธรรมชาติอย่างมากทะเลที่นี่ยังคงมีความใสสะอาดและทรายยังคงเป็นสีขาวยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทำลายธรรมชาติที่งดงามอย่างนี้

และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีมาตั้งแต่เก่าแก่ยุคโบราณอาการเลยก็ว่าได้เพราะว่ากันว่าเคยมีประวัติที่มีการเล่าถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเดินทางมาเที่ยวที่ทะเลแห่งนี้โดยการมาในครั้งนั้นพระองค์ทรงเสด็จมาพร้อมกับสมเด็จพระเอกาทศรถและแน่นอนว่าการท่องเที่ยวทะเลของทั้งสองพระองค์นั้นสร้างความประทับใจให้กับทั้งสองพระองค์เป็นอย่างมา

ทำให้มีการเล่ากันว่าพระองค์ทั้งสององค์นั้นได้มีการประทับเที่ยวทะเลแห่งนี้อยู่เป็นระยะเวลาหลายวันเลยทีเดียวกว่าจะเดินทางกลับบ้านเมืองและแน่นอนว่าจากการที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถทรงเดินทางมาเที่ยวที่ทะเลแห่งนี้นี่เองทำให้ชาวบ้านได้มีการตั้งชื่อหาดตรงจุดที่ทั้งสองพระองค์มาเที่ยวนี้ว่าหาดเจ้าสำราญนั่นก็เพราะว่าหาดนี้สร้างความสำราญให้กับพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์นั้นเอง

อย่างไรก็ตามที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านเหมือนกับที่พัทยาดังนั้นหากใครที่ชอบเที่ยวแบบเป็นส่วนตัวแนะนำว่ามหาเจ้าสำราญนั้นจะให้ความเพลิดเพลินมากกว่าการไปเที่ยวที่พัทยาอย่างแน่นอนและที่นี่นั้นเราจะเห็นได้ว่าบริเวณเป็นชายหาดนั้นจะมีเต็นท์ผ้าใบของทางโรงแรมคอยให้บริการนักท่องเที่ยวและที่นี่ยังร่มรื่นไปด้วยสวนมะพร้าว

ซึ่งมีการปลูกไว้ริมทะเลเป็นจำนวนมากอีกทั้งยังมีโรงแรมรีสอร์ทและอาหารเอาไว้พร้อมบริการนักท่องเที่ยวที่สำคัญนั้นอาหารที่นี่มีรสชาติอร่อยและถูกปากนักท่องเที่ยวและชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างแน่นอนที่สำคัญที่นี่เราสามารถลงเล่นน้ำได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมารบกวน เรียกได้ว่า  ถ้ามาเที่ยวที่หาดเจ้าสำราญแล้วเราก็จะประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างแน่นอนซึ่งที่นี่จริงๆแล้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

มานานแล้วแต่ด้วยการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการเพื่อไม่ให้ขาดนั้นสกปรกจึงทำให้ที่นี่นั้นยังคงเป็นชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวอยู่เหมือนเดิม หากใครว่างก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันบ้างนะคะ

 

สนับสนุนโดย  letou